#2 สัญญาณไม่สมดุล

เช็กได้ด้วยตัวเองนะ!

เมื่อยกแขนสูงๆ ไม่ได้ จะไขว้หลังก็ติด ตึงบ่าไหล่

แม้แต่ยกมือขึ้นสระผม ยกช้อนส้อมเพื่อทานข้าว ยังลำบาก ทำอย่างไรก็ไม่หายไปนวดมาหลายที่ บางที่นวดถูกใจแต่ไม่ถูกจุด บางที่ถูกจุดแต่ก็ยังไม่หาย บ้างก็สงสัยจะเป็นที่กระดูกคอกดทับเส้นประสาท หรือเส้นเอ็นพากันจินตนาการไปไกล ต้องไปผ่าตัดจัดกระดูก จัดเส้นเอ็นไหม คิดวนไปวนมา ก็เริ่มท้อใจ กังวลขึ้นมาแต่ช้าก่อน!

ลองเช็กร่างกายเรา ตามแนวเส้นลมปราณด้วยตัวเองดูเสียหน่อยก่อน

ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจอาการป่วยมากขึ้นและนำพาไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ต้นตอของโรคได้อย่างถูกต้อง โดยไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว

เพราะ เส้นลมปราณถุงน้ำดี เป็นอีกเส้นหนึ่งที่พาดผ่านบ่าและไหล่ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าขณะนี้สารอาหารในร่างกายเริ่มไม่เพียงพอ มาจากสองสาเหตุใหญ่ๆ ก็คือ

1. การลำเลียงของสารอาหาร แจกจ่ายไปให้กับร่างกาย ไม่ทั่วถึง เพราะ เส้นทางการไหลเวียนของเลือดเริ่มช้าเกินไป  

ซึ่งเราพบได้มากใน คนทำงานที่มีลักษณะงาน ที่ต้องนั่งนานๆ ทั้งวัน

เพราะ ทั้งวันนั่งทำงานกันนานมาก ตั้งแต่เช้า จนค่ำมืด ไม่ค่อยลุก ขยับเปลี่ยนอิริยาบถกันเสียเท่าไร

และเวลาขับรถ ที่คนส่วนใหญ่จะหมดเวลาไปกับการเผชิญรถติดนานบนท้องถนน ทำให้นั่งเครียดกันไม่รู้ตัว หรือคิ้วผูกโบว์อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เคร่งเครียดจนบางที่น้ำเปล่าก็ไม่ค่อยดื่ม

แต่ที่ดื่มก็น้ำหวาน กาแฟ ทำให้เลือดเดินได้ช้าและข้นหนืด จึงทำให้ปวดตึงบ่าไหล่ไปหมด ยกแขนก็ลำบาก

สังเกตได้จาก ตื่นเช้ามาก็ไม่สดชื่น หาวบ่อยๆ เหมือนง่วงอยู่ตลอดเวลา นอนไม่อิ่ม ยังง่วงนอนอยู่

เพื่อเป็นการกระตุ้นร่างกายบ่อยๆ

ก็ดื่มกาแฟ น้ำอัดลม หรือทานขนมคบเคี้ยว ของหวานแทน เพราะสารอาหารไม่ค่อยถึงสมอง

2.ในกระแสเลือดมีสารอาหารน้อยลง  เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือ บางคนก็ไม่พักเลย ทำงานลูกเดียว จึงไม่มีเวลาที่ร่างกายได้ไปผลิตเลือดดี ๆ

ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ

อีกสาเหตุที่ทำให้ในกระแสเลือดมีสารอาหารเหลือน้อยลงก็ คือ อายุที่มากขึ้นของเรา ทำให้ร่างกายผลิตสารอาหารได้น้อยลง ใครเกิดจากสาเหตุนี้ก็ต้องพักผ่อนเพิ่มขึ้น ถ้าหากอายุมากก็ต้องบำรุงกันหน่อย

คราวนี้ถ้าใครมีปัญหาไหล่ติด ยกแขนไม่ขึ้น

ลองสังเกตุอาการข้างเคียงด้วย โดยการ

ถามตัวเองเสียหน่อยว่า

1.นอนหลับ พักผ่อนวันละกี่ชั่วโมง ?

2.ยังขับถ่ายปกติดีไหม ?

3.ทำงานนานเกิน 8 ชั่วโมง?

4.ปรับขยับอิริยาบทในแต่ละวัน บ่อยพอไหม?

 
แนะนำให้ลองปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตแบบที่ไม่ก่อให้เกิดโรค เป็นวิธีที่ป้องกันโรคอีกวิธีด้วยนะ และก็ทำให้การรักษาง่ายและไม่เสียเวลาไปกับการรอคำตอบจากหมอเพียงอย่างเดียว ตามสโลแกน  “หมอที่ดีที่สุดคือตัวท่านเอง”